สหรัฐฯ-ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ขู่ตอบโต้ ‘แรงกว่าทุกครั้ง’ หากเกาหลีเหนือทดสอบนิวเคลียร์

ทันโลกข่าวต่างประเทศ

สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ แถลงเตือนวันนี้ ว่าการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งใหม่ในเกาหลีเหนือจะเผชิญ “มาตรการตอบโต้รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา”

ทันโลกข่าวต่างประเทศ

ภายหลังการหารือที่กรุงโตเกียว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้ง 3 ชาติได้ออกคำแถลงร่วมยกระดับการป้องปรามภัยคุกคามในภูมิภาค

“เราเห็นพ้องที่จะยกระดับความร่วมมือ เพื่อทำให้เกาหลีเหนือยุติกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย และกลับคืนสู่เวทีเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์ในทันที” โช ฮยุนดอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ ระบุ

“เราทั้ง 3 ประเทศเห็นตรงกันว่า จำเป็นจะต้องมีมาตรการตอบสนองที่รุนแรงยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา (unprecedented strong response) หากเกาหลีเหนือดำเนินการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งที่ 7”

โซล และวอชิงตันย้ำเตือนหลายครั้งแล้วว่า เกาหลีเหนืออาจมีแผนรื้อฟื้นการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2017 หลังจากที่ทดลองยิงขีปนาวุธแบบถี่ยิบในปีนี้

เมื่อเดือน ก.ย. โสมแดงได้ยิงขีปนาวุธข้ามเกาะฮอกไกโดของญี่ปุ่นจนสร้างความตื่นตระหนกไปทั่ว และยังอ้างว่าได้เปิดการซ้อมรบนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี (tactical nuclear drill)

“พฤติกรรมเหล่านี้เป็นการกระทำที่ขาดความยับยั้งชั่งใจและบ่อนทำลาย” เวนดี เชอร์แมน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุ พร้อมเตือนเปียงยางให้ “หยุดการกระทำยั่วยุ” ขณะที่ ทาเคโอะ โมริ รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศของญี่ปุ่น ชี้ว่า “กิจกรรมนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือที่หนักข้อขึ้นทุกวัน ถือเป็นความท้าทายที่ชัดเจนและร้ายแรงต่อประชาคมโลก”

คิม จองอึน ประกาศเมื่อเดือนที่แล้วว่า สถานะการเป็น “รัฐนิวเคลียร์” ของเกาหลีเหนือนั้น “ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้” ซึ่งถือเป็นการปิดประตูตายสำหรับข้อเรียกร้องให้พวกเขายอมเจรจาเพื่อปลดอาวุธนิวเคลียร์

รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศของทั้ง 3 ชาติยังได้มีการหารือในประเด็นอื่นๆ เช่น สงครามยูเครน จีน และไต้หวัน แต่ทั้ง โมริ และโช ยืนยันว่า เรื่องความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ที่ลุ่มๆ ดอนๆ ไม่ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุย